หลายคนคงเคยเกิดอาการ “เหน็บชา” โดยเฉพาะตามปลายมือหรือเท้า มีอาการยุบยิบหรือคล้ายเข็มเล็กๆ ทิ่มจำนวนมาก ซึ่งอาการนี้โดยทั่วไปแล้วเกิดได้ทั้งจากการกดทับเส้นประสาทส่วนปลายช่วงแขน ข้อมือ เท้าหรือข้อเท้า เกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทหรือการขาดสารอาหารบางประเภทก็ได้ ซึ่งสาเหตุหลักที่ไม่รุนแรง มีดังนี้
– การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ขาดการขยับเขยื้อนเป็นช่วงเวลาหนึ่ง
– การขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 1 บี 12 ซึ่งมีสาเหตุที่ระบุได้ ซึ่งแก้ไขและป้องกันได้ไม่ยาก
สาเหตุของการเกิดอาการเหน็บชาจากการขาดวิตามินบี 1
ขาดการบริโภคแหล่งธัญพืชบางชนิด โดยเฉพาะธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถั่วต่างๆ ลูกเดือย ข้าวโพด เพราะวิตามินบี 1 จะอยู่ในส่วนของเปลือกหุ้มเมล็ด ซึ่งจะสูญหายไปหลังจากที่ขัดเมล็ดจนกลายเป็นข้าวขาว หรือผลิตภัณฑ์แป้งขัดขาว
บริโภคอาหารที่ขัดขวางกระบวนการดูดซึมวิตามินบี 1 เช่น พืชบางชนิด อาทิ ใบเมี่ยง หมากพลู ดื่มชา ปลาร้า แหนมดิบ ปลาส้มดิบ หอยดิบ ไข่ที่ไม่สุก
ความต้องการของร่างกายสูงขึ้นชั่วคราว จากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา เช่น สตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เด็กที่อยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต คนที่มีการใช้แรงงานร่างกายหนักกว่าปกติ นักกีฬา ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรังเป็นเวลานาน ผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ
อาการเจ็บป่วยบางชนิด เช่น มีการผ่าตัดเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการฟอกไต ผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมที่ทำให้การเมตาบอลิสึมของวิตามินบี 1 เปลี่ยนไป



สาเหตุของการเกิดอาการเหน็บชาจากการขาดวิตามินบี 12
เกิดความผิดปกติภายในกระเพาะอาหารที่สร้างสารช่วยดูดซึมวิตามิน B12 ทำให้วิตามินนี้ไม่สามารถดูดซึมได้ รวมทั้งผู้ที่มีการผ่าตัดลำไส้เล็กส่วนปลาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดูดซึมวิตามิน B12
ผู้ที่รับประทานอาหารแบบมังสวิรัติแบบเคร่ง ที่ไม่ดื่มนม กินปลาหรือไข่เลย เนื่องจากวิตามินบี 12 พบได้ในผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อสัตว์
หากมีอาการผิดปกติอื่นร่วมด้วย ควรทำอย่างไร ?
กลุ่มที่มีความผิดปกติรุนแรงนั้น เช่น รายที่มีภาวะของการทำลายเส้นประสาทรอบนอกจากโรคบางชนิด เช่น ภาวะเบาหวาน โรคใดๆ ที่เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง เช่น สมองหรือไขสันหลังก็สามารถเกิดอาการเหน็บชาได้เช่นกัน ซึ่งหากมีอาการเหน็บชาร่วมกับอาการผิดปกติอื่นด้วย และมีระยะเวลาที่มีอาการยาวนานหรืออาการมีความรุนแรงจนไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปกติได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด และไม่ควรตัดสินใจซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานเอง



เราจะป้องกันอาการเหน็บชาได้อย่างไร
1. เลือกรับประทานอาหารกลุ่มธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ลูกเดือย ข้าวฟ่าง งาต่างๆ เป็นประจำ เพื่อให้ได้รับวิตามินบี 1 เป็นประจำ
2. เลือกรับประทานอาหารจากเนื้อสัตว์เป็นปกติ แต่ให้ความสำคัญในการเลือกให้ไขมันไม่สูงเกินไป โดยตัดมันหรือหนังทิ้งออกไปก่อนนำมาปรุงอาหาร จะทำให้ได้รับวิตามินบี 12 เพียงพอ
3. สำหรับปัญหาเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ควรมีการวางแผนการออกกำลังกายให้ครบถ้วนเป็นประจำ และอาจปรึกษานักกายภาพบำบัดหรือนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเบื้องต้นได้ หากต้องการคำแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเอง
ที่มา : เครือข่ายคนไทยไร้พุง